Amazon Alexa ทำเงินไหล! ทีมพัฒนา Alexa ถูกปลดพนักงานจำนวนมาก!

Amazon Alexa และแท่ง Stock ร่วง

Amazon Alexa ทำเงินไหล! ทีมทำ AI, ภาษาธรรมชาติ (NLU) และทักษะการสนทนา ถูกปลดพนักงานจำนวนมาก

ตามรายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความคืบหน้าว่าการปลดพนักงานของ Amazon จะส่งผลอย่างไรกับ Alexa บ้าง

สำนักข่าว Business Insider ได้รายงานว่า กลุ่มพนักงานที่โดนปลดมากที่สุดคือกลุ่มทีม Alexa ที่ทำเกี่ยวกับระบบ AI, ทีมพัฒนาความเข้าใจทางภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ (Natural Language Understanding) และทีมพัฒนาทักษะการสนทนา

Amazon ได้ลดจำนวนพนักงานทีม Alexa หลายทีม รวมทั้งทีมที่กำลังพัฒนาเสียง Alexa ให้เหมือนมนุษย์, รับรู้ทักษะใหม่ ๆ และ ตอบคำถามได้สร้างสรรค์มากขึ้น

ในทางกลับกัน Google ได้ใช้เวลาพัฒนาให้ Assistant มีธรรมชาติเหมือนมนุษย์มากขึ้น เช่น Nest Hub Max สามารถรับรู้ว่าผู้ใช้งานกำลังมองที่ Nest อยู่หรือไม่ และเริ่มการทำงานอัตโนมัติ, ในขณะที่วลีที่ตั้งไว้ (เช่น “หรี่ไฟลง) ไม่จำเป็นต้องพูด “Hey Google” ฟีเจอร์ทั้งสองนี้ถูกเปิดเผยที่งาน I/O เดือนพฤษภาคม ปี 2022 เพื่อทำให้ Assistant เป็นธรรมชาติมากขึ้น

ฟีเจอร์ที่กำลังจะเพิ่มเข้ามา จะทำให้ Assistant สามารถละเลยเสียง “อืม…”, การเว้นวรรคระหว่างคำ, และคำอุทานอื่น ๆ ได้ ณ ตอนนี้ Google Assistant เป็นคนตรงไปตรงมามาก มันจะฟังทุกคำศัพท์ที่คุณพูดหมดเลย Google คาดว่าจะเริ่มปล่อยโมเดลการสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติในต้นปี 2023:

การจะทำให้ Assistant เป็นธรรมชาติมากขึ้น, เราจะสร้างโมเดลภาษาใหม่ ที่มีความเข้าอกเข้าใจมากขึ้นและสามารถเข้าใจธรรมชาติการพูดของมนุษย์ — เช่น เมื่อคุณหยุดการพูดไปซักพัก แต่ยังพูดไม่จบ

คนใช้ Google assistant สั่งคำสั่ง "show plumbers near me"

อย่างไรก็ตาม Assistant ในช่วงปี 2022 และ 2021 ถูกอัปเดตฟีเจอร์ใหม่แบบค่อยเป็นค่อยไป เช่นฟีเจอร์เด่นฟีเจอร์นึงคือ คำสั่งค้นหา Podcast ที่พึ่งได้รับการเพิ่มเข้ามาในสัปดาห์ที่แล้ว Google ได้ลงน้ำพักน้ำแรงไปกับการพัฒนาประสบการณ์การใช้งาน Google Assistant และ Smart Display ใน Pixel Tablet สำหรับปี 2023 ซะมากกว่า

ในอีกรายงานหนึ่ง, Business Insider ได้กล่าวไว้ว่า คำสั่ง Alexa ส่วนมากเป็นคำสั่งทั่วไป, เช่นถามสภาพอากาศ หรือ เล่นเพลง แม้ Amazon จะได้พาดหัว “ได้รับคำสั่งเสียงเป็นพันล้านต่อสัปดาห์” พวกเขาไม่สามารถได้เงินจากคำสั่งเสียง อย่างไรก็ตามแอป Third-party ไม่สามารถ “สร้าง Engagement” กับ แอปคำสั่งเสียงอื่น ๆ ได้ ซึ่งมันเหมือนอดีตความรุ่งและร่วงของ “chatbots”

ปีนี้ พนักงานที่รู้จักกับทีมฮาร์ดแวร์ได้กล่าวว่า บริษัทกำลังจะสูญเสียถึง 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับ Alexa และอุปกรณ์อื่น ๆ

ในขณะเดียวกัน, Insider Intelligence market research กล่าวไว้ว่า “Assistant กำลังนำอยู่ด้วยผู้ใช้งาน 81.5 ล้านคน, ตามด้วย Apple Siri 77.6 ล้านคน” ในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ Alexa เป็น “อันดับสามที่ใหญ่ที่สุดด้วย 71.6 ล้านคน” หนึ่งจุดต่างที่สำคัญคือ Apple และ Google มีผู้ใช้งานกว้างมากกว่าเพราะมีผู้ใช้งานมือถือที่ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สมาร์ทโฮม

เมื่อถามความคิดเห็น Amazon โดย Insider, Amazon กล่าวไว้ว่า “ยังคงยึดมั่นพัฒนา Echo และ Alexa ต่อไป และเราจะยังคงลงทุนอย่างเต็มที่กับทั้งสอง

แหล่งที่มา: 9to5Google
แปลและเรียบเรียงโดย : ศิรสิทธิ์ เต็มสรีสุข

Related Blog

ลบ TikTok ออกจาก App Stores! วุฒิสภากล่าวว่า TikTok "เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกา"

ลบ TikTok ออกจาก App Store และ Google Play วุฒิสภาสหรัฐสั่ง

คณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านความมั่นคงของสหรัฐได้แจ้งขอให้ทั้ง Apple และ Google ลบแอป TikTok ออกจาก Store ของตน คำขอนี้มาจากความกังวลของแอปที่มาจากประเทศจีน ผนวกกับการแบน TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ รวมทั้งอีกครึ่งของรัฐในสหรัฐอเมริกาที่แบน TikTok บนอุปกรณ์รัฐแล้ว… พื้นหลังสาเหตุทำไมถึงแบน? เมื่อพูดถึง TikTok ก็ต้องนึกถึงดราม่า รู้ไหมว่าแอปนี้โดนโจมตีหลายด้านมากมาย จนทำให้ยากที่จะสรุปมันทั้งหมด – แต่นี่คือสรุปที่เราพยายามทำมาให้… เหตุมันเกิดนานตั้งแต่

Read More »
HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาว! แต่จุดเปลี่ยนคือเป็นคราบน้อยลง และสายไฟถอดได้แล้ว!

HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาวไว้บนโต๊ะไม้! จุดเปลี่ยนที่ดีคือสายไฟเปลี่ยนได้ง่ายแล้ว

หนึ่งในจุดที่น่าสนใจของ HomePod 2 คือปัญหารอยคราบวงแหวนบนพื้นไม้ ส่วนในด้านการเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้นก็มีสายไฟที่ถอดได้แล้วเพราะรุ่นเก่าถอดไม่ได้ ไม่นานหลังจาก HomePod ตัวแรกเปิดตัว ผู้ใช้งานบางรายเริ่มพบกับคราบวงแหวนบนพื้นไม้ที่เกิดจากฐานของลำโพง HomePod – Apple ได้ออกมากล่าวยอมรับว่ามันเป็นเหตุที่เกิดขึ้นได้และเขียนเพิ่มไว้ในเอกสารช่วยเหลือผู้ใช้ว่า HomePod สามารถทิ้งคราบบน “พื้นไม้บางชนิด” ได้ Apple บอกว่าปัญหานี้มันเกิดจาก “น้ำมันกระจายตัวระหว่างฐานซิลิโคนและตัวโต๊ะไม้” และหลังจากยก HomePod ออก คราบอาจจะหายไปหรือไม่หายไปก็ได้ สำหรับคนที่กังวล

Read More »
โทรพลาดมากเกินกว่า 100 สายในเดือนเดียว! จากระบบ Crash Detection ของ iPhone ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น

Crash Detection ของ iPhone ตรวจจับพลาดมากเกิน 100 ครั้ง! ในเดือนเดียว รายงานจากประเทศญี่ปุ่น

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกนำมาโฆษณาบ่อยมากคือ Crash Detection หรือการตรวจจับการชนของ iPhone 14 ซึ่งมันจะโทรหากู้ภัยถ้าตรวจพบว่าผู้ใช้งานรถชนหรือรถคว่ำ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มือถือได้เปิดตัวออกมา เรามักจะได้ยินข่าวถึงการโทรผิดพลาดจากฟีเจอร์นี้ และมันมักจะเกิดในที่เดียวกันบ่อย ๆ ด้วย ทุก ๆ การโทรผิดพลาด ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยต้องทำงานที่หนักมากขึ้น ในเหตุการณ์ล่าสุดนี้ สถานีดับเพลิงคิตะ-แอลป์ ในนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานมาว่า พวกเขาได้รับถึง 134 สายโทรที่ไม่ได้ตั้งใจ

Read More »