Apple เผยวีดีโอแสดงฟีเจอร์เด่นในการช่วยการเข้าถึง (Accessibility) เช่น สั่งงานด้วยเสียง, การจำเสียง, ตรวจจับประตู และอื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้พิการทางสายตาใช้กล้อง iPhone ตรวจจับประตู ที่มีข้อความเขียนว่า "ขึ้นเวทีทางนี้" เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ Accessibility
“ที่ Apple เราเชื่อว่าการเข้าถึงได้ทุกสภาพร่างกาย เป็นหนึ่งในสิทธิมนุษยชน นวัตกรรมสุดล้ำของเราเช่น การจับภาพประตู, การจำเสียงของผู้ใช้, คำสั่งเสียง และ อื่น ๆ อีกมากมาย ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณใช้งานอุปกรณ์ในแบบที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด”
 
คลิปล่าสุดของ Apple แสดงให้เห็นถึงฟีเจอร์ที่ออกแบบมาให้ทุกคนได้ใช้ รวมถึงผู้พิการที่มีความต้องการหลากหลาย
 
ในคลิปจะมีเพลง “I Am the Greatest” โดย Spinifex Gum (และ Marliya Choir), คลิปเริ่มโดยแสดงให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับสิริให้ตั้งบรรยากาศ (Scene) เป็นตอนเช้า…
 
ม่านในห้องนอนของเธอค่อย ๆ เปิดขึ้น, และสิริก็อธิบายสภาพอากาศ, ก่อนที่ผู้หญิงจะลุกขึ้นมาและแสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีแขน ในคลิปนั้นก็จะมีฉากที่เธอแสดงการใช้เท้าในการแต่งหน้าและขับรถอย่างเชี่ยวชาญและแม่นยำ รวมถึงเธอยังสามารถใช้ iPhone ได้ด้วยฟีเจอร์ AssistiveTouch
 
อีกหนึ่งตัวอย่าง แสดงให้เห็นถึงนักดนตรีที่มีความพิการทางสายตา ใช้ฟีเจอร์เสียงบรรยายภาพ (Audio Description) เพื่อ “มอง” สิ่งของในห้องด้วยกล้องของ iPhone และ iPhone ก็จะบรรยายเป็นเสียงอธิบายว่าสิ่งนั้นคืออะไร โดยมันสามารถแยกได้แม้กระทั่งประตูไหนนำทางไปที่ไหนได้จากข้อมูลที่แปะอยู่บนประตู (เช่นป้าย To Stage) และเขาก็ได้ไปที่ประตูนั้นเพื่อดำเนินการแสดงตามปกติ
 
ผู้พิการอัมพาตครึ่งซีก ใช้เสียงเพื่อสั่ง iPhone เพื่อถ่ายรูปตัวเอง และใช้ ท่าทาง (Gestures) เช่นแลบลิ้น และ ยักคิ้ว เพื่อตัดต่อภาพ
 
ตัวอย่างอื่น ๆ ก็มีเด็กที่ให้ iPhone อ่านคำศัพท์ให้, และคุณแม่ผู้พิการทางการได้ยิน ได้รับการแจ้งเตือนว่าลูกของเธอร้องไห้อยู่จาก Apple Watch
 
ในคลิปที่ดำเนินเรื่องได้เร็วภายในเวลาแค่ 2 นาที 20 วิ นั้นเปี่ยมไปด้วยตัวอย่างมากมาย Apple ได้ขับเคลื่อนฟีเจอร์การเข้าถึงได้ทุกสภาพร่างกาย เพื่อให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่เป็นอิสระได้
 
คุณสามารถรับชมคลิปจาก Apple ได้เลยที่นี่

นอกจากนี้เรายังได้บทความจาก Colin Hughes, นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนพิการ ผู้แสดงให้เห็นวิธีการผสมผสานระหว่างฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) ของ Apple และอุปกรณ์ HomeKit เข้ากันได้อย่างลงตัวเพื่อให้เขาได้สามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ เขากล่าวว่ามันเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับฟีเจอร์การช่วยการเข้าสถึง

“ช่างเป็นปีที่แจ่มจรัสสำหรับการช่วยการเข้าถึงและเทคโนโลยีของ Apple โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องใช้ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ Apple ได้ฟังผู้ใช้งานจริงและนั่นมันยอดเยี่ยมมาก
การอัปเดต 3 อย่างนี้อาจไม่จำเป็นสำหรับบางคน แต่มันช่วยผมมากในชีวิตประจำวัน และความสะดวกสบายและความอิสระที่มันเพิ่มให้กับผมนั้นไม่สามารถกลั่นออกมาเป็นคำพูดได้”
 

แหล่งที่มา: 9to5Mac
แปลและเรียบเรียงโดย: ศิรสิทธิ์ เต็มศรีสุข

Related Blog

ลบ TikTok ออกจาก App Stores! วุฒิสภากล่าวว่า TikTok "เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกา"

ลบ TikTok ออกจาก App Store และ Google Play วุฒิสภาสหรัฐสั่ง

คณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านความมั่นคงของสหรัฐได้แจ้งขอให้ทั้ง Apple และ Google ลบแอป TikTok ออกจาก Store ของตน คำขอนี้มาจากความกังวลของแอปที่มาจากประเทศจีน ผนวกกับการแบน TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ รวมทั้งอีกครึ่งของรัฐในสหรัฐอเมริกาที่แบน TikTok บนอุปกรณ์รัฐแล้ว… พื้นหลังสาเหตุทำไมถึงแบน? เมื่อพูดถึง TikTok ก็ต้องนึกถึงดราม่า รู้ไหมว่าแอปนี้โดนโจมตีหลายด้านมากมาย จนทำให้ยากที่จะสรุปมันทั้งหมด – แต่นี่คือสรุปที่เราพยายามทำมาให้… เหตุมันเกิดนานตั้งแต่

Read More »
HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาว! แต่จุดเปลี่ยนคือเป็นคราบน้อยลง และสายไฟถอดได้แล้ว!

HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาวไว้บนโต๊ะไม้! จุดเปลี่ยนที่ดีคือสายไฟเปลี่ยนได้ง่ายแล้ว

หนึ่งในจุดที่น่าสนใจของ HomePod 2 คือปัญหารอยคราบวงแหวนบนพื้นไม้ ส่วนในด้านการเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้นก็มีสายไฟที่ถอดได้แล้วเพราะรุ่นเก่าถอดไม่ได้ ไม่นานหลังจาก HomePod ตัวแรกเปิดตัว ผู้ใช้งานบางรายเริ่มพบกับคราบวงแหวนบนพื้นไม้ที่เกิดจากฐานของลำโพง HomePod – Apple ได้ออกมากล่าวยอมรับว่ามันเป็นเหตุที่เกิดขึ้นได้และเขียนเพิ่มไว้ในเอกสารช่วยเหลือผู้ใช้ว่า HomePod สามารถทิ้งคราบบน “พื้นไม้บางชนิด” ได้ Apple บอกว่าปัญหานี้มันเกิดจาก “น้ำมันกระจายตัวระหว่างฐานซิลิโคนและตัวโต๊ะไม้” และหลังจากยก HomePod ออก คราบอาจจะหายไปหรือไม่หายไปก็ได้ สำหรับคนที่กังวล

Read More »
โทรพลาดมากเกินกว่า 100 สายในเดือนเดียว! จากระบบ Crash Detection ของ iPhone ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น

Crash Detection ของ iPhone ตรวจจับพลาดมากเกิน 100 ครั้ง! ในเดือนเดียว รายงานจากประเทศญี่ปุ่น

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกนำมาโฆษณาบ่อยมากคือ Crash Detection หรือการตรวจจับการชนของ iPhone 14 ซึ่งมันจะโทรหากู้ภัยถ้าตรวจพบว่าผู้ใช้งานรถชนหรือรถคว่ำ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มือถือได้เปิดตัวออกมา เรามักจะได้ยินข่าวถึงการโทรผิดพลาดจากฟีเจอร์นี้ และมันมักจะเกิดในที่เดียวกันบ่อย ๆ ด้วย ทุก ๆ การโทรผิดพลาด ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยต้องทำงานที่หนักมากขึ้น ในเหตุการณ์ล่าสุดนี้ สถานีดับเพลิงคิตะ-แอลป์ ในนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานมาว่า พวกเขาได้รับถึง 134 สายโทรที่ไม่ได้ตั้งใจ

Read More »