การใช้งานคำสั่งเสียงกับอุปกรณ์ Apple HomeKit จะสามารถเปลี่ยนชีวิตคน ๆ นึงให้มีอิสระมากขึ้นได้อย่างไรกัน

Accessibility หรือ การช่วยการเข้าถึง เปลี่ยนชีวิตผู้พิการอย่างไร?
สำหรับผู้พิการนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) ของ Apple นั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตคน ๆ นึงได้เลย – แต่มันอาจยากที่จะเห็นว่ามันช่วยได้อย่างไร จนกว่าคุณจะเห็นด้วยตาของคุณเอง
 
Colin Hughes อดีตผู้ผลิตรายการทีวี ปัจจุบันเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนพิการ ได้พาไปชมบ้านของเขา ว่าเขาได้ใช้ฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึง และ HomeKit อย่างไร เพื่อทำให้เขาพึ่งตนเองได้มากที่สุด ในแบบที่เขาต้องการ

HomeKit ก็สามารถเป็นฟีเจอร์ช่วยการเข้าถึงได้

ฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงนั้นไม่ได้เป็นประโยชน์แก่ผู้พิการแต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ทั่วไปด้วย

ยกตัวอย่างเช่น คำบรรยายภาพในคลิปวีดีโอ ตอนแรกทำมาเพื่อผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน แต่ปัจจุบัน ผู้ใช้ทั่วไปหลายท่านชอบใช้คำบรรยายภาพ – ไม่ว่าจะใช้เพื่อช่วยเรื่องสำเนียงภาษาที่ต่างกัน หรือ เพียงแค่อยากดูคลิปโดยไม่ต้องเปิดเสียง
ประตูอัตโนมัติ แรกเริ่มถูกสร้างมาเพื่อผู้ใช้งานวีลแชร์หรือผู้ใช้งานไม้ค้ำ แต่ปัจจุบันก็เป็นประโยชน์สำหรับนักช้อปที่มือไม่ว่างเปิดประตู
การอ่านเนื้อหาบนจอ ตอนแรกก็ถูกสร้างมาเพื่อผู้มีปัญหาทางสายตา แต่การที่มีระบบอ่านข้อความให้อัตโนมัติระหว่างขับรถนี่ ก็เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานหลายคนมาก

ที่ว่ามาก็เป็นจริงเช่นกัน สำหรับเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม ที่ตอนแรกอาจจะทำมาเพื่อคนที่อยากได้บ้านฉลาด อัจฉริยะอย่างกับหลุดออกมาจากหนัง Sci-Fi แต่เทคโนโลยีเหล่านี้ก็ช่วยให้ผู้พิการทำหลาย ๆ อย่างในชีวิตประจำวันได้ เช่น เปิดกาน้ำร้อน หรือ เขียนอีเมล

อพาร์ทเม้นท์ของ Hughes มีอุปกรณ์สำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ – เช่น ประตูที่ควบคุมด้วยสิริ – แต่อุปกรณ์ส่วนมากใช้เพียงฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงของ Apple และอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั่วไป

ความอิสระคือทุกสิ่ง

หนึ่งในปัญหาของผู้พิการคือเขาต้องมีผู้ช่วยทำสิ่งง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันตลอด ดังนั้นสำหรับ Hughes การที่เขามีฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงและ HomeKit นั้นช่วยให้เขามีอิสระมากขึ้น สามารถทำได้ด้วยตนเอง
 
แน่นอนว่ายังมีบางจุดที่เขาต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ช่วย เช่น ลุกออกจากเตียงในตอนเช้า แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นเด่นชัดในวีดีโอด้านล่างคือ เขามีอิสระมากมายในการตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ในวันหนึ่ง

วันหนึ่งในชีวิตของเขา

คลิปด้านล่างจะแสดงให้เห็นถึงชีวิตประจำวันของ Hughes ที่มีการใช้งานฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึง และ การใช้งานสมาร์ทโฮม นอกจากนี้ Colin ยังอธิบายว่ามันช่วยเปลี่ยนชีวิตเขาไปมากแค่ไหน
(ในคลิปได้ถูกตัดคำว่า “Hey Siri” ออกทั้งหมด เพื่อไม่ให้เปิดสิริโดยพลการ)
ชมคลิปได้เลย

เพียงสิ่งเล็ก ๆ

บางทีเพียงสื่งเล็ก ๆ ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถบอกสิริให้รับโทรศัพท์ได้ แต่ไม่มีทางบอกให้วางสาย นั่นทำให้ Hughes ต้องพึ่งสายปลายทางวางสายให้ – หรือถูกปล่อยให้ไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อส่ง Voicemail เสร็จ
ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขใน iOS 16 – และนั่นมันส่งผลดีอย่างมาก
“ผมไม่ได้เป็นคนที่ชอบแสดงออกในที่สาธารณะ แต่การที่ผมสามารถวางสายได้เอง เป็นครั้งแรก โดยไม่ต้องใช้มือ, เพียงแค่ใช้เสียง มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมาก! ผมพูดไม่ออกเลย ผมรู้สึกซาบซึ้งมาก
เพียงแค่สามารถทำสิ่งทั่วไปที่คนทั่วไปสามารถทำได้ มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษที่ผมไม่มีทางลืม
ไม่ต้องรอให้ Voicemail หมดเวลาอีกต่อไป แถมยังสามารถตัดสายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างง่ายดาย และหากสิริโทรหาผิดคน ผมสามารถตัดสายได้แล้ว
แค่ตัดสายได้ ก็ช่วยเปลี่ยนชีวิตผมไปในทางที่ดีขึ้น! มันช่างวิเศษมาก!”

แม้มันจะเป็นประโยชน์สำหรับเขามาก Hughes ก็ไม่ลืมว่านี่ไม่ได้เป็นประโยชน์สำหรับผู้พิการเท่านั้น

“มันเป็นฟีเจอร์ที่ควรจะมีในทุกเครื่องและมันก็เป็นประโยชน์สำหรับคนที่มือไม่ว่าง ยกตัวอย่างเช่น พึ่งล้างมือแล้วไม่อยากแตะมือถือด้วยมือที่เปียก มันดีจริง ๆ ที่ Apple กำลังจะย้ายฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงไปอยู่ในสิริแทนในอนาคตอันใกล้ การย้ายไปจะเป็นการทำให้มันครอบคลุมทุกคน”

เช่นเดียวกัน iPhone มีระบบรับสายอัตโนมัติ – แต่ทว่าคุณไม่สามารถเปิดหรือปิดได้ด้วยสิริ
เหมือนเดิม iOS 16 ได้แก้ปัญหานี้
สุดท้าย ระบบอ่านแจ้งเตือนอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องใช้ AirPods เป็นประโยชน์อย่างมาก

“นอกจากนี้ Apple ยังได้ขยายระบบอ่านแจ้งเตือนอัตโนมัติ ที่จะอ่านข้อความที่เข้ามาเป็นเสียงให้ฟัง และคุณสามารถโต้ตอบกับข้อความนั้นได้ทันที

ก่อนหน้านี้ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้สำหรับผู้ใช้ AirPods เท่านั้น แต่ตอนนี้สามารถใช้งานได้บนลำโพง iPhone แล้ว ซึ่งมันเป็นประโยชน์มาก ตอนที่ผมวาง iPhone ไว้บนโต๊ะเฉย ๆ”

Hughes ชม Apple สำหรับการรับฟังคำขอของเขาและผู้อื่น

“ช่างเป็นปีที่แจ่มจรัสสำหรับการช่วยการเข้าถึงและเทคโนโลยีของ Apple โดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องใช้ผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ Apple ได้ฟังผู้ใช้งานจริงและนั่นมันยอดเยี่ยมมาก
การอัปเดต 3 อย่างนี้อาจไม่จำเป็นสำหรับบางคน แต่มันช่วยผมมากในชีวิตประจำวัน และความสะดวกสบายและความอิสระที่มันเพิ่มให้กับผมนั้นไม่สามารถกลั่นออกมาเป็นคำพูดได้”
แหล่งที่มา: 9to5Mac
แปลและเรียบเรียงโดย ศิรสิทธิ์ เต็มศรีสุข

Related Blog

ลบ TikTok ออกจาก App Stores! วุฒิสภากล่าวว่า TikTok "เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกา"

ลบ TikTok ออกจาก App Store และ Google Play วุฒิสภาสหรัฐสั่ง

คณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านความมั่นคงของสหรัฐได้แจ้งขอให้ทั้ง Apple และ Google ลบแอป TikTok ออกจาก Store ของตน คำขอนี้มาจากความกังวลของแอปที่มาจากประเทศจีน ผนวกกับการแบน TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ รวมทั้งอีกครึ่งของรัฐในสหรัฐอเมริกาที่แบน TikTok บนอุปกรณ์รัฐแล้ว… พื้นหลังสาเหตุทำไมถึงแบน? เมื่อพูดถึง TikTok ก็ต้องนึกถึงดราม่า รู้ไหมว่าแอปนี้โดนโจมตีหลายด้านมากมาย จนทำให้ยากที่จะสรุปมันทั้งหมด – แต่นี่คือสรุปที่เราพยายามทำมาให้… เหตุมันเกิดนานตั้งแต่

Read More »
HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาว! แต่จุดเปลี่ยนคือเป็นคราบน้อยลง และสายไฟถอดได้แล้ว!

HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาวไว้บนโต๊ะไม้! จุดเปลี่ยนที่ดีคือสายไฟเปลี่ยนได้ง่ายแล้ว

หนึ่งในจุดที่น่าสนใจของ HomePod 2 คือปัญหารอยคราบวงแหวนบนพื้นไม้ ส่วนในด้านการเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้นก็มีสายไฟที่ถอดได้แล้วเพราะรุ่นเก่าถอดไม่ได้ ไม่นานหลังจาก HomePod ตัวแรกเปิดตัว ผู้ใช้งานบางรายเริ่มพบกับคราบวงแหวนบนพื้นไม้ที่เกิดจากฐานของลำโพง HomePod – Apple ได้ออกมากล่าวยอมรับว่ามันเป็นเหตุที่เกิดขึ้นได้และเขียนเพิ่มไว้ในเอกสารช่วยเหลือผู้ใช้ว่า HomePod สามารถทิ้งคราบบน “พื้นไม้บางชนิด” ได้ Apple บอกว่าปัญหานี้มันเกิดจาก “น้ำมันกระจายตัวระหว่างฐานซิลิโคนและตัวโต๊ะไม้” และหลังจากยก HomePod ออก คราบอาจจะหายไปหรือไม่หายไปก็ได้ สำหรับคนที่กังวล

Read More »
โทรพลาดมากเกินกว่า 100 สายในเดือนเดียว! จากระบบ Crash Detection ของ iPhone ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น

Crash Detection ของ iPhone ตรวจจับพลาดมากเกิน 100 ครั้ง! ในเดือนเดียว รายงานจากประเทศญี่ปุ่น

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกนำมาโฆษณาบ่อยมากคือ Crash Detection หรือการตรวจจับการชนของ iPhone 14 ซึ่งมันจะโทรหากู้ภัยถ้าตรวจพบว่าผู้ใช้งานรถชนหรือรถคว่ำ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มือถือได้เปิดตัวออกมา เรามักจะได้ยินข่าวถึงการโทรผิดพลาดจากฟีเจอร์นี้ และมันมักจะเกิดในที่เดียวกันบ่อย ๆ ด้วย ทุก ๆ การโทรผิดพลาด ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยต้องทำงานที่หนักมากขึ้น ในเหตุการณ์ล่าสุดนี้ สถานีดับเพลิงคิตะ-แอลป์ ในนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานมาว่า พวกเขาได้รับถึง 134 สายโทรที่ไม่ได้ตั้งใจ

Read More »