สัมผัสกับแอป Google Home เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก

แอป Google Home เดิมทีก็เป็นแอปที่ดีอยู่แล้วสำหรับการจัดการอุปกรณ์สมาร์ทโฮม แต่ด้วยอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่มมามากขึ้นและการรองรับ Nest ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ ทำให้แอปออกมาดูไม่ค่อยทันสมัยสักเท่าไร ปัจจุบัน Google จึงได้มุ่งพัฒนาแอป Google Home ใหม่ ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจ และเราก็ได้ใช้เวลาทดสอบดูเพื่อให้คุณได้รับชมกันในวันนี้

แถบแบบใหม่ เพื่อการควบคุมที่ง่ายขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่คุณจะพบได้ทันทีในแอป Google Home คือหน้าหลัก ซึ่งแตกต่างจากดีไซน์เดิมอย่างมาก ถ้าคุณเคยชินกับการกดปุ่มที่จุดเดิม คุณจะต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด

ซึ่งมันก็คุ้มค่าที่จะเรียนรู้ใหม่

แอป Home เดิมถูกออกแบบมาบนความคิดที่ว่า ทำทุกสิ่งทุกอย่างในสองหน้า
หน้านึงสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ และอีกหน้าสำหรับตรวจสอบการทำงานว่าสั่งทำอะไรไปบ้าง

ดีไซน์ใหม่ได้ทำการขยายฟังก์ชันในสองหน้านี้เป็นหน้าย่อย ๆ แทน

หน้าแรก คือหน้า “Favorites” นี่เป็นหน้าที่ตกแต่งได้ แต่ก็มีบางส่วนที่ตกแต่งไม่ได้

บนสุดมีปุ่มลัดเพื่อเข้าไปตรวจสอบกล้องทั้งหมดของคุณ, ไฟทั้งหมดของคุณ, อุปกรณ์และการตั้งค่าของ Nest/Google WiFi, และปุ่มเพื่อตรวจสอบเครื่องวัดอุณหภูมิทั้งหมด

หน้าเฉพาะอุปกรณ์แต่ละหน้า ได้รับการดีไซน์ใหม่ โดยหน้ากล้องมีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับแต่ก่อน แต่มีการปรับปรุงเล็กน้อย
หน้าไฟได้จัดเรียงไฟของคุณตามห้องพร้อมกับปุ่มเปิดปิดใหญ่เด่นชัดเจนด้านบน และยังมีปุ่มดูไฟแต่ละห้อง ทำให้คุณควบคุมเฉพาะไฟที่ต้องการได้เพียงแค่แตะ ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีมาก!

หน้า Wi-Fi ถูกปรับแต่งให้ดูง่าย สบายตา เป็นดีไซน์ที่ดีกว่าเก่า เพราะของเก่าค่อนข้างยุ่งยาก และช้า ในดีไซน์ใหม่ คุณจะสามารถดูสถานะของเครือข่ายและการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ทั้งหมดได้ที่ข้างบน นอกจากนี้ยังมีปุ่มให้แชร์รหัสผ่าน จัดการ Family Wi-Fi, หรือทดสอบความเร็วได้ที่ปุ่มด้านล่าง และก็ปุ่มตรวจสอบประวัติเครือข่าย และตั้งค่าเครือข่ายเรียงลงมา

ส่วนหน้าตรวจสอบคุณภาพอากาศ ไม่ได้รับการดีไซน์อะไรใหม่

และหน้า Favorites ก็ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งของคุณ
โดยแต่เดิมมันจะเป็นหน้าว่างเปล่ามาให้ พร้อมปุ่มให้คุณตกแต่งตามใจชอบ โดยคุณสามารถเลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการให้ปรากฏบนหน้าได้ หรือจะเพิ่มปุ่มลัดสำหรับไฟ, ล็อค, และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงสามารถเพิ่มกล้องที่ต้องการดูบ่อย ๆ ไว้ในหน้านี้ได้เลย หรือมากกว่านี้คุณก็ยังสามารถเพิ่มปุ่ม Broadcast, โทรหาอุปกรณ์สมาร์ทโฮม, หรือเรียก Google Assistant ได้ เป็นหน้าที่เป็นประโยชน์และเต็มไปด้วยการตกแต่งจริง ๆ

แต่แน่นอนว่ายังมีจุดที่ควรแก้ไขปรับปรุงอยู่ ไม่ได้ดีไปทุกอย่าง

ปัญหาใหญ่สุดที่เราพบคือหน้า Favorites เราไม่สามารถเพิ่มกลุ่มของอุปกรณ์เข้าไปได้ ทุกอุปกรณ์แสดงเป็นปุ่มเฉพาะของมันเอง ดังนั้นถ้าคุณต้องการปุ่มเดียวเพื่อปิดไฟทั้งหมดในห้อง ๆ นึง คุณยังไม่สามารถทำได้ จริงอยู่ที่มันอาจกดเพียงไม่กี่ปุ่มเพื่อเข้าหน้าเปิดปิดไฟโดยเฉพาะ มันค่อนข้างน่าหงุดหงิดที่เราต้องอ้อมไป แทนที่จะกดปุ่มเดียวได้เลย

นอกจากนี้ คุณยังไม่สามารถเรียง Layout ที่คุณต้องการได้ มันจะเรียงมาให้เลยตามตัวอักษร A-Z และตามห้องที่คุณวางอุปกรณ์ไว้ ถ้าตามจริง เราต้องการกล้อง Nest Cam ให้โผล่ไว้บนสุดเมื่อเราเปิดแอป Home แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราไม่สร้างห้องใหม่ หรือตั้งชื่อใหม่ให้เป็นตัวอักษร A

ส่วนอีกปัญหานึงที่เกิดกับดีไซน์ใหม่นี้คือ หน้านี้อาจจะดูดีสำหรับคนที่มีอุปกรณ์เยอะมาก มันออกแบบมาให้คนที่มีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเยอะ ๆ จัดการกับอุปกรณ์ได้อย่างสะดวก แต่ถ้าคนที่มีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมน้อย ๆ อาจจะเห็นว่าดีไซน์ใหม่นี้ออกจะเป็นการดาวน์เกรดแทนที่จะเป็นการอัปเกรดซะด้วยซ้ำ ในขณะที่แอปเก่ามีอุปกรณ์สมาร์ทโฮมให้เห็นได้ชัดเจนหน้าแอป พร้อมการเรียงอย่างเป็นระเบียบ เวอร์ชั่นใหม่เหมือนกับเพิ่มประตูบ้านมาอีกบานนึง ทำให้เราต้องเปิดเข้าไปก่อนที่จะเจออุปกรณ์ของเรา ซึ่งมันก็ดีสำหรับคนที่มีอุปกรณ์เยอะแต่อาจจะไม่เป็นประโยชน์สักเท่าไรสำหรับคนที่มีอุปกรณ์ไม่มาก

หน้าถัดไป หน้า Devices เป็นหน้าที่แสดงให้เห็นอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณในบ้าน และหน้านี้แทบไม่ต่างจากแอป Home เวอร์ชั่นก่อนเลย อุปกรณ์ของคุณถูกแยกไปตามห้องและสามารถเข้าถึงได้ง่าย เป็นอีกทางเลือกนึงแทนหน้า Favorites ซึ่งดีไซน์นี้ออกแบบมาได้ดีอยู่แล้ว และ Google ยังได้ปรับปุ่มเพิ่มอุปกรณ์ให้ชัดเจนมากขึ้นที่ด้านล่างขวา

หน้า Automations ได้มาแทนที่ปุ่มลัด “Routines” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนที่ดี ทำให้เห็นว่า Google ได้ใส่ใจกับการอัปเดตครั้งนี้ เพราะ Routines ค่อนข้างมีปัญหาในการใช้งาน
ส่วนของฟังก์ชัน Automations นั้นคือ Routines ที่ได้รับการปรับแต่งเล็กน้อย
ส่วนของหน้า Activity นั้นไม่ต่างจากแอป Home เวอร์ชั่นก่อน

หน้าสำหรับ Settings โดยเฉพาะ สะดวกสุด ๆ

บางทีจุดที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่สุดอาจไม่ได้เป็นอะไรพิเศษมากมาย แต่เป็นหน้า Settings โดยเฉพาะนี่เอง

ด้านบนสุดจะแสดงครอบครัวและคนที่ใช้แอป Home รองลงมาก็มีปุ่มลัดเพื่อเข้าไปปรับอุปกรณ์, ห้อง, หรือกลุ่มได้ มันอาจจะดูรกนิดหน่อยถ้าคุณมีหลายอุปกรณ์ แต่มันก็ใช้งานได้ รองลงมาอีก ก็จะพบกับปุ่มตั้งค่าในการเพิ่มอุปกรณ์จากผู้ใช้อื่น รวมทั้งบริการด้าน Video/music และตั้งค่าอื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Add ที่สามารถเพิ่ม Action ที่เหมาะสมกับอุปกรณ์นั้น ๆ

และเมื่อเลื่อนลงมาอีกจะพบกับตั้งค่าหลัก ๆ อีกสองหมวดคือ “Home Features” และ “Nest services & support” ซึ่งการตั้งค่าก็ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย ซึ่งมันเป็นการพัฒนาที่ไม่อยากจะพูดเลยว่ามันยอดเยี่ยมอะไรปานนี้ แม้การตั้งค่าแต่ละอุปกรณ์ โดยเฉพาะพวกอุปกรณ์ Nest Cam ยังมีจุดยุ่งยากนิดนึง แต่นี่ถือว่าเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับแอป Google Home

ลองเทียบกันดูระหว่างเก่า (ซ้าย) กับ ใหม่ (ขวา) แล้วจะเห็นว่ามันต่างกันขนาดไหน

ทีนี้ Google ก็แค่ต้องหาทางที่จะทำให้ไม่มีการตั้งค่าถึงสามทางในแอปเดียว…

Nest Cam ยังคงเทอะทะนิดหน่อย แต่ดีกว่าเก่ามาก

หนึ่งในจุดที่รับไม่ได้เลยในรุ่นก่อน ๆ คือความล้าหลังของการรองรับกับกล้อง Nest ในรุ่นใหม่ ๆ เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า เพราะแอป Nest มันดีกว่ามาก

ซึ่งแอป Google Home โฉมใหม่ก็ได้แก้ปัญหาอันใหญ่หลวงนี้

ปัญหาใหญ่ที่ว่านั่นก็คือแค่นำฟีดภาพจากกล้อง Nest มาที่แอป Home คุณจะเห็นภาพสดอยู่ด้านบนของจอ ตามด้วยรายการเหตุที่เกิดขึ้นด้านล่าง เมื่อแตะรายการก็จะแสดงคลิปที่เกิดเหตุนั้นขึ้นมา (ต้องเปิดอัดคลิปไว้) ด้านบนนั้นก็มีปุ่มดูภาพแบบเต็มจอ หรือเปลี่ยนประวัติให้แสดงแบบแนวตั้ง ถ้าคุณเปิดอัดคลิป 24 ชั่วโมงละก็ มันเป็นอัปเดตที่เป็นประโยชน์มาก

นอกจากนี้ยังมีปุ่มสองปุ่ม ปุ่มนึงแสดงข้อมูลใบหน้าที่รู้จักและอื่น ๆ และก็มีเมนูให้คุณปิดกล้องตั้ง “Quiet Time” (เวลาเงียบ), เก็บคลิปหรือตรวจสอบใบหน้าที่รู้จัก หรือ มุมมองประวัติแบบใหญ่ขึ้น ทั้งหมดมันเป็นการพัฒนาที่สุดยอดมาก

ในส่วนของกล้อง Nest ยังรู้สึกค่อนข้างช้าในแอป Home เมื่อเทียบกับแอป Nest โดยตรง แต่อาจจะเป็นเพราะผู้ทดสอบได้ทดสอบในขณะที่กำลังเดินทางท่องเที่ยว – แต่ก็ยังถือว่า Google ได้พัฒนาแอป Home ดีขึ้นอย่างมาก

ก้าวใหญ่ก้าวต่อไปคือการทำให้แอป Home โฉมใหม่รองรับกับกล้อง Google Nest ทั้งหมด Google กล่าวไว้ว่ามันจะเสร็จ “ภายในปีหน้า” ตอนนี้ยังคงเป็นหน้าโฉมเก่าไปก่อนที่จะไม่มีประวัติอะไรให้ดู

เราใกล้ถึงปลายทางแล้ว ความลำบากของ Google Nest กำลังจะจบลงแล้ว

ยังมีมาอีกเยอะ

อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นแค่ Preview ยังมีอัปเดตอะไรมาเพิ่มได้อีก แอป Google Home ที่นำมาแสดงในวันนี้เป็นเวอร์ชั่น Preview และสัมผัสได้เลยว่ายังอยู่ในช่วงต้น ๆ ของการพัฒนาแอปอยู่ อนิเมชั่นในการเลื่อนแอปบางจุดยังกระตุกอยู่บ้าง และมันมีบางฟีเจอร์ที่จำเป็นต้องนำไปพัฒนาต่อ และนอกจากนี้ยังมีหลาย Settings ที่ยังคงใช้ดีไซน์เก่าอยู่ แค่มีหน้าตาใหม่ด้านหน้า หรือ เข้าถึงง่ายขึ้น

สรุปแล้ว โดยรวม Google ได้พัฒนาไปในทางที่ดีอย่างมาก แอปมีหน้าตาที่ดูสะอาด สะอ้านมากขึ้น มีประโยชน์มากขึ้น และมีการพัฒนาในหลาย ๆ จุดมากขึ้น

ด้วยดีไซน์ใหม่นี้ มันพร้อมที่จะรองรับอุปกรณ์ใหม่ ๆ ไปได้อีกนานหลายปีเลยล่ะ

แล้ว... อัปเดตแอป Google Home ใหม่ยังไง???

ณ ตอนนี้ แอป Google Home เวอร์ชั่นใหม่ยังไม่ได้เปิดใช้งานให้บุคคลทั่วไปได้ใช้ ตอนนี้ยังเป็นแค่จำกัดให้เฉพาะคนที่ได้รับเชิญ และยังอยู่ในช่วง Preview

แหล่งที่มา: 9to5Google

แปลและเรียบเรียงโดย: ศิรสิทธิ์ เต็มศรีสุข

Related Blog

ลบ TikTok ออกจาก App Stores! วุฒิสภากล่าวว่า TikTok "เป็นศัตรูตัวฉกาจต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกา"

ลบ TikTok ออกจาก App Store และ Google Play วุฒิสภาสหรัฐสั่ง

คณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านความมั่นคงของสหรัฐได้แจ้งขอให้ทั้ง Apple และ Google ลบแอป TikTok ออกจาก Store ของตน คำขอนี้มาจากความกังวลของแอปที่มาจากประเทศจีน ผนวกกับการแบน TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐ รวมทั้งอีกครึ่งของรัฐในสหรัฐอเมริกาที่แบน TikTok บนอุปกรณ์รัฐแล้ว… พื้นหลังสาเหตุทำไมถึงแบน? เมื่อพูดถึง TikTok ก็ต้องนึกถึงดราม่า รู้ไหมว่าแอปนี้โดนโจมตีหลายด้านมากมาย จนทำให้ยากที่จะสรุปมันทั้งหมด – แต่นี่คือสรุปที่เราพยายามทำมาให้… เหตุมันเกิดนานตั้งแต่

HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาว! แต่จุดเปลี่ยนคือเป็นคราบน้อยลง และสายไฟถอดได้แล้ว!

HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาวไว้บนโต๊ะไม้! จุดเปลี่ยนที่ดีคือสายไฟเปลี่ยนได้ง่ายแล้ว

หนึ่งในจุดที่น่าสนใจของ HomePod 2 คือปัญหารอยคราบวงแหวนบนพื้นไม้ ส่วนในด้านการเปลี่ยนแปลงที่ดีนั้นก็มีสายไฟที่ถอดได้แล้วเพราะรุ่นเก่าถอดไม่ได้ ไม่นานหลังจาก HomePod ตัวแรกเปิดตัว ผู้ใช้งานบางรายเริ่มพบกับคราบวงแหวนบนพื้นไม้ที่เกิดจากฐานของลำโพง HomePod – Apple ได้ออกมากล่าวยอมรับว่ามันเป็นเหตุที่เกิดขึ้นได้และเขียนเพิ่มไว้ในเอกสารช่วยเหลือผู้ใช้ว่า HomePod สามารถทิ้งคราบบน “พื้นไม้บางชนิด” ได้ Apple บอกว่าปัญหานี้มันเกิดจาก “น้ำมันกระจายตัวระหว่างฐานซิลิโคนและตัวโต๊ะไม้” และหลังจากยก HomePod ออก คราบอาจจะหายไปหรือไม่หายไปก็ได้ สำหรับคนที่กังวล

โทรพลาดมากเกินกว่า 100 สายในเดือนเดียว! จากระบบ Crash Detection ของ iPhone ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้น

Crash Detection ของ iPhone ตรวจจับพลาดมากเกิน 100 ครั้ง! ในเดือนเดียว รายงานจากประเทศญี่ปุ่น

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกนำมาโฆษณาบ่อยมากคือ Crash Detection หรือการตรวจจับการชนของ iPhone 14 ซึ่งมันจะโทรหากู้ภัยถ้าตรวจพบว่าผู้ใช้งานรถชนหรือรถคว่ำ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มือถือได้เปิดตัวออกมา เรามักจะได้ยินข่าวถึงการโทรผิดพลาดจากฟีเจอร์นี้ และมันมักจะเกิดในที่เดียวกันบ่อย ๆ ด้วย ทุก ๆ การโทรผิดพลาด ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยต้องทำงานที่หนักมากขึ้น ในเหตุการณ์ล่าสุดนี้ สถานีดับเพลิงคิตะ-แอลป์ ในนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รายงานมาว่า พวกเขาได้รับถึง 134 สายโทรที่ไม่ได้ตั้งใจ

สัมผัสกับแอป Google Home เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก

แถบแบบใหม่ เพื่อการควบคุมที่ง่ายขึ้น

หน้าสำหรับ Settings โดยเฉพาะ สะดวกสุด ๆ

Nest Cam ยังคงเทอะทะนิดหน่อย แต่ดีกว่าเก่ามาก

ยังมีมาอีกเยอะ

แล้ว... อัปเดตแอป Google Home ใหม่ยังไง???

Related

Related Blog

ลบ TikTok ออกจาก App Store และ Google Play วุฒิสภาสหรัฐสั่ง

HomePod 2 ยังทิ้งคราบขาวไว้บนโต๊ะไม้! จุดเปลี่ยนที่ดีคือสายไฟเปลี่ยนได้ง่ายแล้ว

Crash Detection ของ iPhone ตรวจจับพลาดมากเกิน 100 ครั้ง! ในเดือนเดียว รายงานจากประเทศญี่ปุ่น

บริษัท ฉลาดอัจฉริยะ จำกัด

จดหมายข่าว

การสนับสนุน

ติดตามเรา